สำหรับมือใหม่ ที่อยากจ้างบริษัทรับเหมา หรือช่างรับเหมาทั่วไปมาช่วยสร้างบ้าน หรือต่อเติมบ้าน แต่ด้วยความที่ลูกค้าบางท่าน อาจจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับงานก่อสร้างมาก่อน ก็อาจจะเสียเปรียบ ไม่ทันกลโกงของผู้รับเหมาที่ไม่ดีได้ ดังนั้นเราจึงจะพาให้ท่านไปรู้จักกับ BOQ ที่จะช่วยให้ท่านรู้ทันกลโกงของผู้รับเหมาที่ไม่ดี และยังช่วยให้ท่านคุมงบประมาณได้อีกด้วยค่ะ
boq คืออะไร
boq ย่อมาจากคำว่า Bill of Quantities หมายถึง ใบแสดงรายการสินค้า หรือวัสดุ ที่ใช้สำหรับก่อสร้าง และรายการแจกปริมาณงาน ที่ช่างต้องต่อเติมอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้าง และงานระบบไฟ ระบบประปาต่างๆ โดยจะมีการแบ่งหมวดหมู่อย่างเป็นระบบ โดยปกติแล้วใบ boq จะถูกออกโดยสถาปนิกที่ระบุในสัญญาว่าจ้าง หากไม่มีในสัญญา ลูกค้าสามารถว่าจ้างสถาปนิกที่มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญ มาเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องทั้งหมดให้ค่ะ
หมวดหมู่ในใบ boq โดยประมาณ
- หมวดขั้นตอนการเตรียมงาน แสดงค่าใช้จ่ายในการเตรียมการก่อสร้าง เช่น การปรับพื้นที่หน้าดิน รื้ออาคารเก่า ปรับฐานราก
- หมวดชั้นตอนโครงสร้าง แสดงรายละเอียด และปริมาณงานโครงสร้างทั้งหมด เช่น คอนกรีตโครงสร้าง คอนกรีตหยาบ และไม้แบบ
- หมวดงานสถาปัตยกรรมหรือการตกแต่ง ทำหลังคา งานพื้น ผนัง ประตู หน้าต่าง รวมถึงการตกแต่งภายใน เช่น กระเบื้องหลังคา พื้นผิวซีเมนต์ ผนังคอนกรีต งานตกแต่งบันได งานมุงหลังคา งานฝ้าเพดาน งานผนัง งานพื้น งานทาสี
- หมวดงานระบบต่างๆ เช่น งานประปา สุขาภิบาล งานไฟฟ้า และงานเดินท่ออากาศ
รายละเอียดของใบนั้นๆ อาจจะมีความแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของงานก่อสร้างนั้นๆ เช่น ก่อสร้างบ้าน ก่อสร้างตึก ก่อสร้างอาคาร ต่อเติมภายใน เป็นต้น
ใบ BOQ สำคัญอย่างไร
- เปรียบราคา สาเหตุที่ ใบ boq มีความสำคัญที่ลูกค้า หรือผู้ว่าจ้างต้องให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเอกสารอันนี้จะเป็นเอกสารที่สถาปนิก และผู้ว่าจ้างใช้ในตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบราคาผู้รับเหมาระหว่างเจ้าแต่ละเจ้า ว่ามีราคาแตกต่างกันมากแค่ไหน ทำให้ผู้ว่าจ้างมีตัวเลือกช่วยตัดสินใจมากขึ้น
- ตรวจสอบวัสดุ เอกสาร boq อันนี้ยังช่วยการวางแผนการจัดซื้อ และกำหนดการก่อสร้างได้ ทำให้ผู้ว่าจ้างสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ว่ามีวัสดุ หรืองานใดบกพร่องไปหรือไม่ ผู้รับเหมาซื้อของตรงตามรายการที่แจ้งไว้ครบ หรือไม่ รวมถึงการรู้ราคาของสินค้าที่จัดซื้อเข้ามาว่ามีราคา-ปริมาณเท่าไรอีกด้วย
- ใช้ยื่นขอสินเชื่อได้ สำหรับใครที่ไม่มีเงินก้อนสำหรับสร้างบ้าน หรือต่อเติมบ้าน เอกสาร boq จากผู้รับเหมาก่อสร้างยังมีประโยชน์ที่ช่วยให้คุณสามารถยื่นเรื่องขอกู้ยืมเงินกับธนาคารได้ เพราะธนาคารจะใช้ใบ boq ของคุณประกอบการพิจารณา ซึ่งหากจำนวนเงินที่ขอกู้นั้น มีสอดคล้องกับใบ boq ก็จะช่วยให้การขอกู้เงินผ่านง่ายยิ่งขึ้น
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
วิธีคำนวณ boq
ถึงแม้ว่าการออกใบ boq จะออกโดยสถาปนิก หรือบริษัทรับเหมา แต่หากคุณต้องการคิดคำนวณผู้ออกแบบบ้าน หรือผู้รับเหมาก่อสร้างต้องคิดคำนวณ เพื่อทำใบ boq ด้วยตัวเอง ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ โดยให้คำนวณยึดหลักดังต่อไปนี้
- อันดับแรกคุณต้องแบ่งประเภทงานแต่ละส่วนออกมาทั้งหมด ไม่ให้ปะปนกัน เช่น งานโครงสร้าง งานหลังคา งานฝ้าเพดาน งานผนัง งานประตู งานหน้าต่าง งานทาสี งานระบบไฟฟ้า งานประปา ฯลฯ จากนั้นวัดพื้นที่ของบ้าน โดยให้ใช้หน่วยวัดเป็นเมตรและตารางเมตรเช่น หากบ้านของคุณมีวัดพื้นที่ได้ 200 ตารางเมตร แปลว่าคุณจำเป็นต้องใช้กระเบื้องปูพื้นประมาณ 200 ตารางเมตร เป็นต้น
- อันดับที่สอง คุณจำเป็นที่จะต้องสำรวจราคากลางของสินค้า และวัสดุก่อสร้างคร่าวๆ เพื่อให้ทราบราคาโดยประมาณ ซึ่งในสมัยนี้นั้นการค้นหาราคากลางของสินค้าต่างๆ ก็ทำได้ง่ายดายกว่าสมัยก่อนมาก เพราะไม่จำเป็นที่ต้องเดินเสาะหาร้านขายวัสดุก่อสร้างเอง ไม่ต้องเดินดูของเองแล้ว เพียงแค่คลิกเข้าเว็บไซต์ เสิร์ชข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตแป๊บเดียวก็ได้ข้อมูลแล้ว
- เมื่อได้ราคากลางแล้ว ให้ลูกค้าคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ โดยประมาณด้วยการนำปริมาณวัสดุ x ราคาต่อหน่วย = ราคาวัสดุ / แต่ในส่วนของค่าแรงนั้นอาจจะคำนวณยากค่ะ เนื่องจากผู้รับเหมาแต่ละรายคิดค่าแรงไม่เท่ากันค่ะ
แต่อย่างไรก็ตาม วิธีตามที่แนะนำไปข้างต้นนั้น เป็นเพียงการคำนวณแบบคร่าวๆเท่านั้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ให้ลูกค้ายึดเป็นราคากลางตั้งต้นในใจ ที่หากเจอผู้รับเหมา หรือบริษัทรับเหมา ที่ราคาแพงกว่านี้ก็คิดว่า กำลังถูกหลอกอยู่ เนื่องจากขั้นตอนการดำเนินการก่อสร้างนั้นมักจะมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาร่วมด้วย
เช่นการเปลี่ยนแปลงวัสดุบางอย่าง หรือการแก้ไขงานหากพบอุปสรรคก่อสร้าง ทั้งหมดเป็นเพียงราคาตั้งต้น ที่จะช่วยให้ลูกค้าคำนวณค่าใช้จ่ายโดย และเพื่อเป็นการป้องกันการถูกโกงค่าวัสดุก่อสร้างเท่านั้น นอกจากนี้วัสดุก่อสร้างเองก็มีวัสดุหลากหลายประเภท มีการแบ่งเกรดคุณภาพ เช่น เกรด A เกรด B เกรด C ซึ่งวัสดุบางอย่างที่มีสี และลวดลายที่ลูกค้าต้องการก็อาจจะมีราคาแพง
รวมถึงวัสดุที่มใช้เสริมโครงสร้างเหล็กต่างๆ ก็มีราคาแตกต่างกันตามคุณภาพ ซึ่งผู้รับเหมาก็จำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ดี และเหมาะสมที่สุดสำหรับก่อสร้าง ทำให้ราคาวัสดุที่ผู้รับเหมานำมาใช้ในการก่อสร้าง อาจจะแพงกว่าที่ลูกค้าคำนวณไว้ หากลูกค้ามีการคำนวณใบ boq ประกอบขึ้นมาเอง ลูกค้าควรที่จะนำไปให้สถาปนิกทำ การตรวจสอบซ้ำอีกครั้งจะดีที่สุดค่ะ
กลับสู่สารบัญกลัวโดนโกงวัสดุก่อสร้างทำอย่างไร
ปัญหาที่มักจะเจอส่วนใหญ่ของลูกค้า ที่ว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างก็คือ ความกังวลว่า วัสดุสินค้าที่ผู้รับเหมาซื้อมานั้น จะไม่ได้คุณภาพตามที่ตกลงไว้ หรือกลัวว่าจะเบิกเงินจุกจิกเกินความจำเป็น นอกจากนี้ยังปฏิเสธไม่ได้ว่า ในหมู่ของผู้รับเหมาทั่วไปนั้น ก็มีผู้รับเหมาที่ไม่ดีจำนวนไม่น้อย ที่มักจะคิดค่าบริการ และคิดราคาค่าวัสดุก่อสร้างแพงเกินความเป็นจริง เช่น วัสดุประตู รางน้ำ พื้นกระเบื้อง ผนังกั้น สายไฟต่างๆ ที่มีราคาถูก และไม่ตรงตามจุดประสงค์ของผู้ว่าจ้าง
อายุการใช้งานสั้น เพราะซื้อเฉพาะของที่ด้อยคุณภาพ ทำให้เมื่อนำมาใช้จริงๆ ตัวงานก็มีปัญหาต้องคอยแก้ตลอด ดังนั้นลูกค้าซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง จำเป็นที่จะต้องคอยตรวจสอบใบเสร็จ และเช็กวัสดุการก่อสร้างให้ดีว่าตรงกับระบุไว้ในสัญญาหรือไม่ ควรที่จะเก็บใบเสร็จการสั่งซื้อไว้ รวมถึงตรวจสอบกับทางร้านวัสดุก่อสร้างที่ดีลไว้เป็นประจำ
เพื่อป้องกันกลโกงผู้รับเหมาที่ไม่ดี ที่อาจจะสั่งซื้อสินค้าไม่ครบ หรือปรับเปลี่ยนสินค้าจากเดิมที่ตกลงไว้ว่าจะซื้อสินค้าเกรด A แต่เปลี่ยนเป็นเกรด B ที่ราคาถูกกว่า และทำใบเสร็จปลอมขึ้นมา เพื่อขอเบิกค่าวัสดุ แต่ถ้าหากลูกค้ามีเวลา และมีความรู้เรื่องวัสดุก่อสร้างอยู่บ้าง ก็แนะนำให้ทุกครั้งที่มีการจัดซื้อ ก็สามารถตกลงกับผู้รับเหมาว่า จะไปซื้อวัสดุด้วยตนเอง ก็สามารถป้องกันได้ค่ะ
หรือหากลูกค้าไม่มีเวลา และไม่มีความรู้มากพอ ที่จะไปซื้อวัสดุก่อสร้างเองได้ เราก็มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นมาเสนอค่ะ คือลูกค้าจะต้องเลือกหาบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ไว้ใจได้ มีประสบการณ์ มีผลงานระดับมืออาชีพ มาคอยดูแลการสร้างให้ ก่อนเลือกลูกค้าจะต้องอ่านรีวิวและเปรียบเทียบแต่ละที่ให้ดีก่อนการตัดสินใจ ซึ่งราคาอาจจะแพงกว่าจ้างช่างรับเหมาก่อสร้างทั่วไปอยู่บ้าง
แต่สิ่งที่ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ก็คือ บริษัทรับเหมาก่อสร้างนั้นเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางรวมไว้ในบริษัทเดียวกัน ที่จะช่วยให้ลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่าย เวลาที่จะต้องจ้างสถาปนิก หรือผู้เชี่ยวชาญที่จะมาคุมงานเพิ่ม มีพนักงานดูแลคอย ให้คำแนะนำตลอดระยะเวลาดำเนินการ ที่ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามได้ตลอด นอกจากนี้ยังมีเอกสารสัญญาที่ระบุค่าใช้จ่าย ระยะเวลาการดำเนินงานอย่างครบถ้วน ที่เป็นผลดีต่อลูกค้าเองที่ หากทางบริษัททำผิดสัญญา หรือทำการก่อสร้างไม่ตรงตามที่ตกลงไว้ หรือหลังการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว ไม่ได้คุณภาพ ลูกค้าก็สามารถเรียกค่าเสียหายได้ด้วยค่ะ
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สรุปความสำคัญของ boq
จะเห็นได้ว่า boq นั้นมีความสำคัญมาก สำหรับการก่อสร้าง หรือต่อเติมบ้าน ข้อดีของ boq คือเป็นการควบคุมคุณภาพ และราคาในการก่อสร้างให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะ ตามที่ได้ตกลงกันไว้นั่นเอง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เจ้าของบ้าน เลือกนำไปใช้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
สัมผัสประสบการณ์ผลงานการก่อสร้างจริง
ผลงานคุณภาพที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ทั้งด้านวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้าง ความพร้อมในด้านต่างๆ ตลอดจนมีทีมงานที่มีประสบการณ์ ออกแบบบ้านได้สวยงาม มีเอกลักษณ์ และมีบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีการเน้นความรวดเร็วในการก่อสร้าง ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงสุด